สถานที่ต้องเยือน เมื่อมากรุง (กรุงเทพมหานคร) สถานที่ต้องมาเยือน เมื่อมากรุง
มีหมวดหมู่ย่อย 10 หมวดหมู่ ได้แก่
1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เป็นวัดในพระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดในประเทศไทย ศูนย์กลางแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ภายในพระบรมมหาราชวังเพื่อประดิษฐานพระแก้วมรกต (พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร) แกะสลักจากหยกล้ำค่าซึ่งได้รับการเคารพอย่างสูงจากประชาชนชาวไทย เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิศิลปะล้านนาภาคเหนือราวศตวรรษที่ 15 วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานเป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
พระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต จึงถือเป็นพระราชกรณียกิจสำคัญ ที่จะต้องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปลี่ยนด้วยพระองค์เอง จัดขึ้นเพื่อนำความโชคดีมาสู่ประเทศ พระแก้วมรกตทรงเครื่องทรง 3 ชุด ตามฤดูกาลของประเทศไทย ได้แก่ เครื่องทรงสำหรับฤดูร้อน เครื่องทรงสำหรับฤดูฝน เครื่องทรงฤดูหนาว เครื่องทรงทุกชุดมีความสวยงามวิจิตรทรงคุณค่า
ที่อยู่:พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เปิด:เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.30 น.
บัตรค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 500 บาท
ที่มา:https://rattanakosinislandguide.wordpress.com/วัดพระแก้ว/
ที่มา: https://travel.kapook.com/view1024.html
2.ถนนข้าวสาร เป็นถนนในกรุงเทพฯประเทศไทยชื่อภาษาอังกฤษคือถนนข้าวสาร (อังกฤษ: Thanon Khao San หรือ Khao San Road) ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวกันสำหรับนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์จากทั่วทุกมุมโลก ในปี พ.ศ. 2525 รัฐบาลไทยจัดงานเฉลิมฉลองมากมายเพื่อฉลองครบรอบ 200 ปีการก่อตั้งกรุงเทพฯ ต่อมามีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในช่วงปี พ.ศ. 2525 ได้เข้ามาเช่าห้องพักอาศัยเพื่อเที่ยวชมเมืองหลวง และเริ่มมีกองถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศเข้ามามาถ่ายภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด โดยมีทีมงานกองถ่ายมาอยู่กันเป็นจำนวนมาก ที่มาเช่าที่เกสเฮาส์ที่ย่านนี้ ถนนข้าวสารนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า และบริการท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย รวมทั้งแหล่งความบันเทิง
ที่อยู่:ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร
เปิด:เปิดทุกวัน 08.00 - 02.00
ที่มา: https://travel.kapook.com/view3572.html
3.นิทรรศรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ เป็นงานสถาปัตยกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์กรุงเทพมหานคร นับตั้งแต่มีพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) เป็นอาคาร ๓ ชั้น ไม่รวมชั้นลอย และที่ปลายของอาคารทั้งสองด้าน มีชั้น ๔ ภายในอาคารจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับรัตนโกสินทร์ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย จัดแสดงหุ่นจำลอง การนำสื่อผสมเสมือนจริง ๔ มิติ สื่อมัลติทัช มัลติมีเดียแอนิเมชัน ในลักษณะอินเตอร์เอคทีฟ เซล์ฟ เลิร์นนิ่ง (Interactive Self-learning) โดยแบ่งการจัดแสดงนิทรรศการออกเป็น ๙ ห้องจัดแสดง
นอกจากนิทรรศการแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับนิทรรศการ หมุนเวียน (Event Hall) ที่บริเวณโถงชั้น ๑ เพื่อสำหรับให้บริการแก่นักท่องเที่ยวจ สถาบันการศึกษาและองค์กรเอกชนในการใช้จัดกิจกรรมหรือนิทรรศการทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม ตลอดจนบริการห้องสมุด ร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก อาหารเครื่องดื่ม บริการล็อกเกอร์เก็บของ เครื่องแปลภาษาและบริการอื่นๆ
ที่อยู่:100 ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เปิด:เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้น วันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
บัตรค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 200 บาท
4.วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง หรือคนไทยส่วนใหญ่ที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ที่ชื่อวัดแจ้ง เพราะ พระเจ้าตากฯ ทำศึกเสร็จ แล้วยกทัพกลับมาเป็นเวลาเช้าพอดี ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งต่อมา และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม” ต่อมามีพระราชดำริที่จะเสริมสร้างพระปรางค์หน้าวัดให้สูงขึ้น สิ้นรัชกาลเสียก่อน จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เสริมพระปรางค์ขึ้นและให้ยืมมงกุฎที่หล่อสำหรับพระพุทธรูป ทรงเครื่องที่จะเป็นพระประธานวัดนางนองมาติดต่อบนยอดนภศูล
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชธารามหลายรายการ และให้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วย เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้นลง พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดอรุณราชวราราม”
ที่อยู่:เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
เปิด:เปิดทุกวัน เวลา 08:30 - 17:00 น. ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม
บัตรค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 100 บาท
ที่มา: https://wat360.com/temple.php?wat_name=watarun
5.พระบรมมหาราชวัง พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระปฐมกษัตริย์แห่งบรมราชจักรีวงศ์ พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งยังให้สร้างพระอารามหลวงขึ้นในเขตพระราชวัง และพระราชทานนามพระอารามว่า “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม”
ใช้เวลาสร้าง 2 ปี ส่วนการสร้างพระนครใช้เวลา 3 ปี ภายในพระบรมมหาราชวัง เต็มไปด้วยพระที่นั่งและสถานที่ที่มีความสำคัญอยู่หลายแห่งคือ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ และเหรียญกษาปณ์ พระที่นั่งพิมานรัตยา
ที่อยู่:ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เปิด:เปิดทุกวัน เวลา 08:30 - 17:00 น.
บัตรค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 500 บาทต่อคน
ที่มา: https://travel.kapook.com/view159632.html
ที่มา : https://thai.tourismthailand.org
6.ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณมุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสนามหลวง เป็นที่สักการะกราบไหว้ของประชาชน เชื่อว่าหากผู้ใดได้มาขอพรอันศักดิ์สิทธิ์จากศาลหลักเมืองนี้แล้ว เปรียบประดุจได้เสริมหลักความมั่นคงให้กับชีวิตเหมือนตัดเคราะห์ ต่อดวงชะตา ส่งเสริมวาสนาบารมี ประสบความสำเร็จในชีวิตศาลหลักเมือสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ภายในศาลหลักเมืองมีเสาหลักเมืองอยู่ 2 ต้น โดยเสาต้นสูงคือครั้งรัชกาลที่ 1 ส่วนเสาอีกต้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าให้ขุดเสาหลักเมืองเดิม และจัดสร้างเสาหลักเมืองขึ้นใหม่ทดแทนของเดิมที่ชำรุด โดยได้บรรจุดวงเมืองในยอดเสาทรงมัณฑ์
ที่อยู่:เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เปิด:เปิดทุกวัน เวลา 05.30 – 19.30 น.
ที่มา: http://www.zthailand.com/place/bangkok-city-pillar-shrine-bangkok
ที่มา : http://www.zthailand.com/place/bangkok-city-pillar-shrine-bangkok/
7.บ้านจิมทอมป์สัน เป็นบ้านของ เจมส์ เอช. ดับเบิลยู. ทอมป์สัน นักธุรกิจผู้ก่อตั้งบริษัทอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยจิม ทอมป์สันซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จิม ทอมป์สัน เดินทางไปประเทศมาเลเซีย เขาออกเดินเท้าเข้าป่าและไม่ได้กลับมาอีกเลย บ้านที่เขาเคยอาศัยอยู่จึงได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์บ้านทรงไทยที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมากรุงเทพฯชอบแวะมาเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน ประกอบด้วยเรือนทรงไทยปลูกด้วยไม้สัก
เรือนไทยนี้สร้าง เสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 2502 ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ ฝั่งตรงข้ามคลองเป็นชุมชนมุสลิมบ้านครัว เรือนหมู่ ประกอบด้วยเรือนทรงไทยปลูกด้วยไม้สัก 6 หลังที่ซื้อต่อมาจากเจ้าของบ้านเดิมจากที่ต่างๆในประเทศไทย นอกจากนั้น ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปวัตถุโบราณและศิลปะร่วมสมัยที่หอศิลป์บ้านจิม และยังมีนิทรรศการหมุนเวียนมาจัดแสดงเป็นประจำ ก่อนกลับอย่าลืมแวะไปลิ้มลองอาหารไทยอร่อยๆ ที่ร้านอาหาร และเลือกซื้อของที่ระลึก
ที่อยู่:ถนนพระราม 1 กรุงเทพฯ
เปิด:เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น.
บัตรค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 150 บาทต่อคน
ที่มา: https://www.edtguide.com/travel/131640/the-jim-thompson-house-museum.2551
8.วัดสระเกศ (ภูเขาทอง)ได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่ทั้งพระอารามในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระราชทานนามว่า”วัดสระเกศ” ส่วนเจดีย์ภูเขาทองนั้นเริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยทรงเลียนแบบมาจากภูเขาทองในสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับพระราชทานนามว่า”บรมบรรพต” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จ
พระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่บูชาไว้ในพระบรมมหาราชวังและพระบรมสารีริกธาตุที่ทางรัฐบาลอังกฤษเมื่อครั้งยังปกครองประเทศอินเดียถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาประดิษฐานในพระเจดีย์ภูเขาทอง บรมบรรพตหรือพระเจดีย์ภูเขาทองปัจจุบันมีขนาดสูงจากฐานถึงยอด 78 เมตร โดยจะมีการจัดงานวันลอยกระทงพร้อมกับ “งานวัดภูเขาทอง” ระยะเวลาของงานยาวนาน 7-10 วัน ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมสนุกสนานรื่นเริงย้อนอดีต
ที่อยู่:เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
เปิด:เปิดทุกวัน เวลา 8.00 น. – 17.00 น.
ที่มา: https://rattanakosinislandguide.wordpress.com/วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
9.วัดไตรมิตร วัดไตรมิตรวิทยาราม ตั้งอยู่ที่ถนนมิตรภาพไทย-จีนเขตสัมพันธวงศ์ เป็นวัดโบราณอยู่ในที่ลุ่มพระอารามเป็นเรือนไม้ มีชื่อเดิมว่า "วัดสามจีน" เข้าใจกันว่า ชาวจีน 3 คนร่วมกันสร้างพระอารามเพื่อเป็นวิหารทานการบุญ สิ่งสำคัญของวัด คือ พระสุโขทัยไตรมิตร เป็นพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นพระพุทธรูปที่มีพระพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก พระพุทธรูปทองคำองค์นี้มีหน้าตั้งกว้าง 3.01 เมตร สูง 3.91 เมตร
ที่อยู่: เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
เปิด:เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.
บัตรค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 40 บาทต่อคน
10.วัดโพธิ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาส ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ก่ออิฐ ถือปูน ปิดทองทั่วทั้งองค์ และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยมีลักษณะพิเศษ ได้แก่ พระบาทซ้ายและขวาซ้อนเสมอกัน โดยที่พระบาทประดับมุกภาพมงคล 108 ประการ
นอกจากนี้ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ 99 องค์ พระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล
ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารเปรียบเสมือนมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย โดยเมื่อมีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดครั้งใหญ่ในรัชกาลที่ 3 พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมสรรพวิชาแขนงต่าง ๆ จารึกลงบนศิลาจารึกหรือแผ่นศิลา รวมทั้งได้ปั้นฤๅษีดัดตน ประดับไว้ภายในบริเวณวัด
ที่อยู่:อยู่ทางทิศใต้ของพระบรมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เปิด:วันเสาร์ - อาทิตย์เท่านั้น ตั้งแต่ เวลา 08.00 – 17.00 น
บัตรค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 100 บาทต่อคน
ที่มา : https://th.tripadvisor.com